ลมหนาวปลายปี พัดมาพร้อมกับสัญญาณว่า ‘ฤดูฝุ่น’ PM2.5 อาจหวนกลับมาอีกในไม่ช้า
ข่าวดีคือ คุณภาพอากาศไทยในช่วงครึ่งแรกของปีมีแนวโน้มดีขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยหากใช้เกณฑ์ ‘อากาศดี’ ที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ คือมีฝุ่น PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ไม่เกิน 12 μg/m3 จะพบว่ามีสัดส่วนวันอากาศดีเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 12.5% ในปี 2023 เป็น 24.2% ในปี 2025
อย่างไรก็ตาม หากเจาะลงไปดูในแต่ละพื้นที่ จะพบว่าจังหวัดที่คุณภาพอากาศดีขึ้นอย่างมาก ได้แก่จังหวัดในกลุ่มภาคใต้ตอนล่าง ไล่ตั้งแต่สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ลงไปจนถึงนราธิวาส พื้นที่เหล่านี้มีสัดส่วนวันอากาศดีเพิ่มขึ้นจากราว 10-20% เป็นราว 50-60% เพิ่มขึ้นถึงราว 3 เท่า นอกจากนี้ ในปี 2025 ยังมีการเพิ่มสถานีตรวจวัดหลายแห่ง เช่น ภูเก็ต ซึ่งปรากฎว่าข้อมูลในปีแรกอยู่ในเกณฑ์ดีมากเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ค่าเฉลี่ยรวมทั้งประเทศจึงถูกดึงให้มีแนวโน้มดีขึ้นตามไปด้วย[1]กรมควบคุมมลพิษ 2022-2025
แต่เมื่อหันไปดูจังหวัดที่มีเมืองใหญ่และพื้นที่อุตสาหกรรม เช่น กรุงเทพฯ ปทุมธานี ชลบุรี ระยอง จะพบว่าคุณภาพอากาศมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงน้อยมาก โดยรวมแล้ววันที่อากาศแย่มากมีสัดส่วนน้อยลงบ้าง แต่วันอากาศดีแทบไม่เพิ่มขึ้นเลย โดยในครึ่งแรกของปีนี้ คนกรุงเทพได้สูดอากาศดีเพียง 11 วันเท่านั้น
ในขณะเดียวกัน ยังมีอีกหลายจังหวัดที่คุณภาพอากาศแย่ลงอย่างต่อเนื่อง เช่น น่าน หนองบัวลำภู ราชบุรี และที่ชัดเจนที่สุดคืออุบลราชธานีซึ่งเคยมีสัดส่วนวันอากาศดีมากถึง 71.3% ในปี 2022 แต่กลับมีแนวโน้มลดลงทุกปีจนกระทั่งเหลือเพียง 22.1% ในปีนี้ และจากที่ไม่เคยมี ‘วันสีแดง’ หรือวันที่ค่าฝุ่น PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เกิน 55.5 μg/m3 มาก่อนเลยในช่วง 3 ปีก่อนหน้า ในปี 2025 คนอุบลต้องทนสูดอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพไปถึง 40 วัน หรือ 22.1% ของวันทั้งหมดในช่วงครึ่งแรกของปี
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีอีกหลายพื้นที่ซึ่งแทบไม่มีหรือไม่มีวันอากาศดีเลย เช่น มุกดาหาร ปทุมธานี มีวันอากาศดีแค่ 2 วัน ส่วนขอนแก่นและยโสธร ไม่มีวันอากาศดีเลยแม้แต่วันเดียว ปัญหาคุณภาพอากาศที่ย่ำแย่ในหลายพื้นที่ มักไม่ได้รับความสนใจหรือถูกพูดถึงมากเท่ากับในกรุงเทพฯ และยังมีอีกอย่างน้อย 8 จังหวัดที่ยังไม่มีข้อมูลคุณภาพอากาศเลย เช่น ชัยนาท เพชรบุรี ชุมพร
การประกันสิทธิที่จะมีอากาศสะอาดหายใจให้คนไทย ด้วย ‘พ.ร.บ.อากาศสะอาด’ แม้จะมาไกลจนเกือบถึงฝั่งในปีนี้ แต่ก็เป็นอันต้องสะดุดลงจากการยุบสภาที่เกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดกันเอาไว้ ทำให้กฎหมายซึ่งยังคงอยู่ในขั้นตอนพิจารณาของกรรมาธิการของวุฒิสภาเป็นอันต้องยุติลง อนาคตทางเดินหายใจของคนไทย ยังคงถูกแขวนเอาไว้กับอนาคตการเมืองไทยที่ต้องลุ้นกันต่อว่ามีการประชุมสภาชุดใหม่เมื่อใด และจะมีการนำกฎหมายฉบับดังกล่าวกลับมาพิจารณาต่อได้ทันตามกรอบเวลา 60 วันหลังประชุมนัดแรกหรือไม่
ดูข้อมูลคุณภาพอากาศตามหลักเกณฑ์สากล ในทุกจังหวัดที่มีการบันทึกข้อมูลได้ด้านล่างนี้
| ↑1 | กรมควบคุมมลพิษ 2022-2025 |
|---|