‘เกลี่ยครูมาทำธุรการ’ แก้ปัญหาภาระครูแบบปะผุ?

กลางดึกเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2025 ครูมัทตัดสินใจเขียนจดหมายทั้งหมด 5 หน้าก่อนจากโลกใบนี้ไปโดยไม่มีวันหวนกลับ สร้างความโศกเศร้าและสะเทือนใจต่อคนในครอบครัว บุคลากร หน่วยงานรัฐ และสังคมไทย ในจดหมายหน้าที่ 5 ครูมัทเลือกใช้โอกาสสุดท้ายเขียนถึง ‘ปัญหาในระบบการศึกษาไทย’ ผ่านประสบการณ์ในวิชาชีพของตน โดยเริ่มเล่าจากปัญหาภาระงานนอกเหนือการสอน เช่น การเงิน การบัญชีที่มากเกินไป ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกาย สุขภาพใจ และปิดย่อหน้าสุดท้ายด้วยการเขียนกระทรวงศึกษาธิการว่า

ฝากกระทรวงให้ช่วยเห็นใจครูการเงินและพัสดุด้วยนะคะ อย่าให้ต้องทำงานหนักและเสี่ยงชีวิตแบบนี้เลย[1]Sanook. (2025, มิถุนายน 17). อาลัย “ครูมัท” ทิ้งจดหมายลาก่อนจบชีวิตในวัย 39 ปี เครียดภาระงานการเงินในโรงเรียน. Sanook.com. สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2025. https://www.sanook.com/news/9804210/ 

กรณีดังกล่าวเป็นเครื่องยืนยันให้สังคมได้รับรู้อีกครั้งว่า แท้จริงแล้วครูในไทยไม่ได้มีหน้าที่แค่สอน ซ้ำร้ายภาระงานอื่นๆ ยังเบียดบังเวลาสอนจนเป็นปัญหาอยู่คู่กับระบบการศึกษาไทยมาอย่างช้านาน ทั้งงานธุรการ การเงิน หรือพัสดุ ฯลฯ ซึ่งกินเวลาการทำงานของครูถึงปีการศึกษาละ 84 วัน[2]คิดตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ที่ระบุว่าในหนึ่งปีการศึกษาต้องมีการจัดการเรียนการสอนตามปกติไม่น้อยกว่า 200 วัน … Continue reading

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้มีแนวคิดใหม่ในการลดภาระครู ผ่านการเกลี่ยครูในโรงเรียนที่มีครูเกินเกณฑ์ความต้องการตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด เพื่อเปลี่ยนเป็นบุคลากรทางการศึกษาอื่นเพื่อมาทำงานธุรกรรมแทน (ต่อไปนี้จะเรียกว่า ‘นโยบายเกลี่ยครู’) โดยอ้างว่านโยบายดังกล่าวจะช่วยลดภาระงานครูและประหยัดงบประมาณไปพร้อมๆ กัน กระทรวงฯ จะได้ไม่ต้องจ้างหรือบรรจุข้าราชการใหม่ พร้อมมองว่าเป็นการบริหารทรัพยากรครูให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด[3]ศธ. 360 องศา. (2025, กรกฎาคม 14). “รมว.นฤมล” หารือ ก.ค.ศ.-สพฐ.เร่งลดภาระงานครู เผย เตรียมดึงครูเกินเกณฑ์ไปทำธุรการ แก้ปัญหา รร.ขนาดเล็ก ขาดบุคลากร … Continue reading

ปัญหาภาระงานที่เรื้อรังมานาน จะถูกสะสางด้วย ‘นโยบายเกลี่ยครู’ อย่างที่รัฐมนตรีฯ ตั้งใจจะ ‘คืนครูสู่ห้องเรียน’ ได้จริงหรือไม่? ประเด็นใดที่ต้องทบทวนบ้าง? ผู้เขียนขอชวนประเมินไปพร้อมๆ กันในบทความนี้

ภาระงานอื่นนอกจากการสอนทะลักมาหาครูโดยเฉพาะครูโรงเรียนขนาดเล็ก

อย่างที่สังคมวงกว้างรับรู้แล้วว่า โรงเรียนนั้นไม่มีแค่งานสอนหนังสือเท่านั้น แต่ยังมีงานอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอนโดยตรงด้วย โดย พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 (1999)[4]พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 39. ได้กระจายอำนาจการจัดการให้ไปถึงโรงเรียนในด้านการบริหารและจัดการการศึกษา โดยแบ่งออกได้เป็น 4 ส่วน[5]กฎกระทรวง เรื่อง: การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระจายอำนาจการบริหารและจัดการการศึกษา พ.ศ. 2550 (2008) คือ

  1. ด้านวิชาการ เช่น การพัฒนาสื่อการสอน หลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ หรือวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
  2. ด้านงบประมาณ เช่น การจัดทำแผนงบประมาณและคำขอตั้งงบประมาณ การติดตามและรายงานการใช้งบประมาณ การวางแผนพัสดุ
  3. ด้านการบริหารงานบุคคล เช่น การสรรหาข้าราชการครูหรือบุคลากรการศึกษาอื่น จัดระบบและทำทะเบียนประวัติ
  4. ด้านการบริหารงานทั่วไป เช่น การดำเนินงานธุรการ ดูแลอาคารและสถานที่ ประสานงานราชการกับส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น

การแบ่งหน้าที่เหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องดี เพราะแต่ละโรงเรียนมีอิสระในการจัดการเรียนการสอนของตัวเองตามบริบทภายในพื้นที่ ทว่าโรงเรียนแต่ละแห่งกลับมีความสามารถในการจัดการงานเหล่านี้ไม่เท่ากัน โรงเรียนขนาดใหญ่ตามพื้นที่เมืองที่มีทรัพยากรเยอะก็สามารถจ้างบุคลากรต่างๆ เพื่อทำงานเอกสารโดยเฉพาะได้ ส่วนครูที่ต้องทำงานธุรการด้วยก็สามารถแบ่งงานกันทำแต่ละส่วนได้อย่างชัดเจน ในทางตรงข้าม โรงเรียนขนาดเล็กที่ไม่มีเงินจ้างบุคลากรเพื่อทำงานเหล่านี้ได้ไม่มากนักจนครูหนึ่งคนต้องทำงานหลายอย่าง เช่น การเงินควบงานพัสดุ ฯลฯ เมื่อโรงเรียนขนาดเล็กจะจ้างบุคลากรเพื่อแบ่งเบาภาระด้านธุรการ ก็มักจะเลือกผู้สมัครที่เรียนจบครูเพื่อให้ทำหน้าที่สอนหนังสือควบคู่ไปด้วย[6]สัมภาษณ์ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งโดยผู้เขียน

ยิ่งโรงเรียนเล็ก ยิ่งมีครูน้อย ยิ่งต้องรับภาระงานมหาศาล

เมื่อเทียบจำนวนครูที่สอนในโรงเรียนรัฐตามสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. กับเกณฑ์ขั้นต่ำของ UNESCO จะพบว่าไทยมีครูเพียงพอ เพราะนักเรียน 100 คนในไทยจะมีครูดูแลเฉลี่ย 5.2 คน สูงกว่าเกณฑ์ UNESCO ที่กำหนดให้นักเรียน 100 คนต้องมีครูดูแลขั้นต่ำ 4 คน

แต่หากเปลี่ยนมาเทียบกับเกณฑ์ความต้องการครูที่กำหนดโดย ก.ค.ศ. ซึ่งกำหนดจากภาระงานสอน จะเห็นว่าไทยต้องการครูมาดูแลนักเรียน 100 คนมากถึง 6.0 คน และหากดูเฉพาะโรงเรียนขนาดเล็กจะเห็นว่าไทยต้องการครูมาดูแลนักเรียน 100 คนมากถึง 9.7 คน (ตารางที่ 1) ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจนักที่โรงเรียนขนาดเล็กกว่า 12,500 แห่งจาก 14,000 แห่ง (เกือบ 90%) จะขาดแคลนครู (ตารางที่ 2)

แม้เกณฑ์ความต้องการครูที่กำหนดโดย ก.ค.ศ. ยังคงต้องการครูจำนวนมาก แต่ก็อาจไม่เพียงพอต่อภาระงานสอนอยู่ดี จากผลสำรวจของเครือข่ายครูขอสอนปี 2019 พบว่า ครูในโรงเรียนขนาดเล็กกว่า 73%[7]https://www.facebook.com/photo/?fbid=141032640607782&set=pcb.141033453941034 จำเป็นต้องสอนมากกว่าเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. ตั้งไว้ว่าครู 1 คนควรสอนไม่เกิน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์[8]ดูเพิ่มเติมใน ศธ.0206.3/ว21 เรื่อง ภาระงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ผู้บริหารสถานศึกษา ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ … Continue reading ส่วนครูโรงเรียนขนาดกลาง ใหญ่ และใหญ่พิเศษก็เผชิญกับภาระการสอนที่ท่วมท้นเช่นกัน คือ 60%, 55% และ 42% ตามลำดับ ดังนั้นปัญหาภาระงานครูจึงไม่ใช่แค่ปัญหาของโรงเรียนขนาดเล็กเท่านั้น แต่เป็นปัญหาร่วมที่หลายโรงเรียนต้องเจอเช่นเดียวกัน

ขนาดโรงเรียนจำนวนนักเรียนปริมาณครู (คน) ต่อนักเรียน 100 คนความต้องการครู (คน) ต่อนักเรียน 100 คน
เล็ก1 – 40 คน7.013.0
1– 40 คน5.610.3
41– 80 คน5.98.6
81– 119 คน5.99.7
กลาง1 –119 คน5.66.0
ใหญ่120– 719 คน4.44.6
ใหญ่พิเศษ1,680 คนขึ้นไป4.64.6
รวม5.26.0
UNESCO4 ขึ้นไป

ตารางที่ 1: ปริมาณครูต่อนักเรียน 100 คน และความต้องการครูต่อนักเรียน 100 คน แบ่งตามขนาด
ที่มา: สพฐ. (ม.ป.ป.a) คำนวณโดยผู้เขียน

ขนาดโรงเรียนจำนวนนักเรียนจำนวนโรงเรียนจำนวนโรงเรียนที่ขาดครู (สัดส่วน)จำนวนโรงเรียนที่มีครูเกิน (สัดส่วน)
เล็ก1 – 40 คน2,4192,043 (84.5%)97 (4.0%)
41 – 80 คน6,9286,600 (95.3%)92 (1.3%)
81 – 119 คน4,6273,911 (84.5%)313 (6.8%)
1 – 119 คน13,97412,554 (89.8%)502 (3.6%)
กลาง120 – 719 คน13,0256,933 (53.2%)2,344 (18.0%)
ใหญ่720 – 1,679 คน977557 (57.0%)292 (29.9%)
ใหญ่พิเศษ1,680 คนขึ้นไป611324 (53.0%)232 (38.0%)
รวม28,58720,368 (71.2%)3,370 (11.8%)

ตารางที่ 2: จำนวนโรงเรียนที่สังกัด สพฐ. ปีการศึกษา 2022 แบ่งตามขนาดโรงเรียน
ที่มา: สพฐ. (ม.ป.ป.a) คำนวณโดยผู้เขียน
หมายเหตุ: ไม่นับโรงเรียนที่ไม่มีนักเรียนอีก 1,005 แห่ง

เมื่อเกณฑ์ความต้องการครูในภาพรวมนั้นน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับงานสอน จึงไม่น่าแปลกใจนักที่เกณฑ์ความต้องการครูตามโรงเรียนขนาดเล็กก็น้อยเกินไปเหมือนกันโดยเฉพาะโรงเรียน 1–40 คน และ 41–80 คน ต้องการครู 1–4 คน และ 6 คน ซึ่งไม่ครบ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้[9]ดูเพิ่มเติมใน ศธ.0206.6/ว23 เรื่องเกณฑ์อัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรการศึกษาในสถานศึกษา สังกัดคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ … Continue reading เมื่อรวมกับการที่ไทยมีโรงเรียนเล็กจำนวนมาก (เกือบ 50% ของโรงเรียนทั้งหมด) จนทำให้จำนวนครูที่ต้องสอนเฉลี่ยแต่ละโรงเรียนน้อย และจำเป็นต้องสอนหลายวิชาหรือหลายระดับชั้น จึงทำให้โรงเรียนขนาดเล็กมีปัญหาขาดแคลนครูรุนแรงกว่าโรงเรียนขนาดอื่นๆ

นอกจากนี้ ด้วยภาระงานนอกเหนือการสอนในหนึ่งโรงเรียนมีปริมาณที่ใกล้เคียงกันที่เป็นเหมือนต้นทุนคงที่ไปตามโรงเรียน แต่โรงเรียนขนาดเล็กแต่ละแห่งกลับมีจำนวนครูเฉลี่ยน้อยลง ส่งผลให้ครูหนึ่งคนต้องรับผิดชอบภาระงานดังกล่าวมากกว่าเมื่อเทียบกับโรงเรียนขนาดที่ใหญ่กว่า ซ้ำร้ายหลายงานมักมีกระบวนการละเอียดและซับซ้อน รวมถึงข้อจำกัดของการจัดทำทะเบียนรวบรวมเอกสารต่างๆ ของโรงเรียน (ทะเบียนคุม) ที่ต้องเขียนด้วยมือเท่านั้น[10]สัมภาษณ์ครูพัสดุที่ทำฝ่ายจัดซื้อโดยผู้เขียน ครูบางคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ หรือต้องแบกรับความผิดชอบเกินหน้าที่ของตนเองจึงเกิดความกดดันอย่างมาก เพราะหากทำพลาดก็เสี่ยงถูกโดนลงโทษอย่างร้ายแรง ดังกรณีของครูชัยยศที่ตรวจรับพัสดุอาหารกลางวันของนักเรียนไม่ตรงตามกำหนดจนต้องถูกปลดออกจากราชการ[11]มติชน Online. (2023, ธันวาคม 6). ‘ครูชัยยศ’ ถูกปลดต้องไปขายโรตี เหตุหวังดีเซ็นซื้อข้าวให้มัธยมกินด้วย เรือจ้างรุ่นใหม่สะเทือนใจ. สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2025. … Continue reading

‘นโยบายเกลี่ยครู’ ช่วยลดภาระครูเพียงเล็กน้อย ไม่สอดคล้องกับสภาพปัญหาจริง

นโยบายเกลี่ยครูคือการเกลี่ยครูจากโรงเรียนที่มีครูเกินอัตรากำลัง (ซึ่งเป็นเกณฑ์ความต้องการครูที่กำหนดโดย ก.ค.ศ.) ให้เปลี่ยนตำแหน่งเป็นบุคลากรทางการศึกษาที่ไม่ได้ทำหน้าที่สอนโดยตรงเพื่อมาทำหน้าที่ด้านธุรการแทน[12]มติชน Online. (2025, กรกฎาคม 14). ‘นฤมล’ ถก ก.ค.ศ.-สพฐ. เร่งลดภาระงานครู เผย เตรียมดึงครูเกินเกณฑ์ทำธุรการ แก้ปัญหาขาดบุคลากร. สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2025. … Continue reading แม้ปัจจุบันนโยบายเกลี่ยครูจะยังไม่ชัดว่าจะทำในโรงเรียนกลุ่มใด? เป็นการเกลี่ยข้าราชการครูที่กำลังสอนอยู่ หรือจะเกลี่ยจากตำแหน่งว่างของครูที่กำลังจะเกษียณและเปลี่ยนจากครูเกินเกณฑ์มาเป็นฝ่ายธุรการแทน[13]ฐานเศรษฐกิจ. (2025, กรกฎาคม 16). ข่าวดี สพฐ. จ่อออกประกาศ ‘ลดภาระครู’ ไม่ต้องทำงานธุรการ-การเงิน-พัสดุ. สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2025. https://www.thansettakij.com/general-news/633034 แต่เราก็สามารถประเมินผลกระทบของนโยบายได้เบื้องต้น 2 ส่วน คือ

  1. นโยบายเกลี่ยครูมีผลน้อยมาก เพราะมีโรงเรียนส่วนน้อยเท่านั้นที่มีครูเกินเกณฑ์ความต้องการ ทำให้ผลกระทบของนโยบายมีจำกัด อาจไม่ได้ช่วยลดภาระงานครูในภาพรวมได้มากนัก ในกรณีที่นโยบายเกลี่ยครูเป็นการเกลี่ยครูที่ยังสอนอยู่ก็อาจเผชิญกับแรงเสียดทานเป็นอย่างมากเพราะจะกระทบต่อเส้นทางอาชีพครู[14]กรณีที่ข้าราชการครูที่ถูกเกลี่ยเป็นครูผู้ช่วยหรือครู คศ.1 ที่ยังไม่มีวิทยฐานะ การถูกเกลี่ยให้ไปทำธุรการ (โดยไม่ต้องสอน) … Continue reading
  2. ความต้องการครูแต่ละโรงเรียนที่ถูกตั้งเกณฑ์โดย ก.ค.ศ. นั้นต่ำเกินจริง ไม่ได้สะท้อนกับภาระงานที่ครูต้องทำจริงๆ ในกรณีโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียน 1–40 คน และ 41–80 คน แม้ว่าโรงเรียนกลุ่มนี้จะมีครูครบตามเกณฑ์ความต้องการ คือ 1–4 คน และ 6 คนตามลำดับแต่ก็ได้ไม่ครบ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้อยู่ดี[15]ดูเพิ่มเติมใน ศธ.0206.6/ว23 เรื่องเกณฑ์อัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรการศึกษาในสถานศึกษา สังกัดคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ … Continue reading ส่วนเกณฑ์ความต้องการโรงเรียนขนาดกลางขึ้นไปก็มีปัญหาคล้ายกัน เนื่องจากเกณฑ์ความต้องการที่ถูกกำหนดนั้นขึ้นกับเฉพาะงานสอน ไม่ได้นับรวมงานอื่นๆ ด้วย เมื่อเกณฑ์ความต้องการครูแต่ละโรงเรียนไม่สะท้อนภาระงานจริง การเกลี่ยครูออกจากโรงเรียนที่มีครูเกินเกณฑ์ก็จะทำให้ภาระงานต่อครูหนึ่งคนเพิ่มขึ้นไปอีก

นโยบายเกลี่ยครูคือการจัดสรรทรัพยากรการศึกษาใหม่ที่ให้ผลเพียงเล็กน้อย แถมไม่สอดรับกับสภาพปัญหาทรัพยากรการศึกษาของไทยที่มีสภาวะเบี้ยหัวแตก กล่าวคือจำนวนโรงเรียนในไทยมีมากจนเกินไป ส่งผลให้ครูแต่ละโรงเรียนมีจำนวนน้อย แต่เอกสารที่แต่ละโรงเรียนต้องทำนั้นกลับมีเท่าเดิม ดังนั้นการแก้ลดภาระครูผ่านการจัดสรรทรัพยากรควรมุ่งเน้นไปที่การจัดการทรัพยากรการศึกษาให้กระจุกตัวมากขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

ไทยต้องปรับการจัดสรร – วิธีใช้ทรัพยากรการศึกษาใหม่เพื่อบรรเทาภาระงานครู

หนึ่งในวิธีการจัดสรรทรัพยากรใหม่ให้กระจุกตัวมากขึ้น คือการให้โรงเรียนเล็ก-กลางแบ่งกันใช้ธุรการกลางร่วมกัน (ในบริบทนี้รวมถึงการใช้เจ้าหน้าที่การเงิน/พัสดุร่วมกันด้วย) ซึ่งจะช่วยให้พนักงานที่ทำงานเอกสารสามารถแบ่งงานกันทำตามความถนัดของตนเองได้ (จากเดิมที่ธุรการ 1 คนต้องทำหลายอย่าง) ทำให้ในภาพรวมแต่ละคนจะทำงานธุรการได้มากขึ้นภายใต้กรอบเวลาเท่าเดิมหรือก็คือธุรการแต่ละคนมีผลิตภาพ (productivity) เพิ่มมากขึ้น 

สำหรับวิธีนี้ สพฐ. เคยพยายามผลักดันให้โรงเรียนขนาดเล็กใช้ธุรการร่วมกันมาก่อน แต่สุดท้ายก็ต้องล้มเลิกไป เนื่องจากโรงเรียนแต่ละแห่งเผชิญปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับงานเอกสาร เช่น การจัดทำหนังสือราชการที่ล่าช้ากว่าเดิม เพราะฝ่ายธุรการต้องเดินทางไปพบผู้อำนวยการแต่ละโรงเรียนเพื่อเซ็นเอกสารด้วยตนเอง[16]ในอดีต การไม่มีธุรการประจำโรงเรียนอาจสร้างความเสี่ยงในการไม่ได้รับหนังสือจากผู้อำนวยการเขตด้วย … Continue reading ซึ่งแต่ละโรงเรียนมองว่าควรมีธุรการเป็นของตัวเองมากกว่าเพื่อความสะดวก[17]มติชน Online. (2025, กรกฎาคม 14). ‘นฤมล’ ถก ก.ค.ศ.-สพฐ.เร่งลดภาระงานครู เผย เตรียมดึงครูเกินเกณฑ์ทำธุรการ แก้ปัญหาขาดบุคลากร. สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2025 … Continue reading

ความพยายามในการจัดสรรทรัพยากรใหม่รอบนี้แสดงให้เห็นถึงการแก้ปัญหาเป็นส่วนๆ ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เนื่องด้วยความไม่มีประสิทธิภาพส่วนอื่นๆ ในงานเอกสาร การจัดสรรทรัพยากรใหม่เพื่อลดภาระงานครูจึงจำเป็นต้องมองความไม่มีประสิทธิภาพในระบบราชการในหลายส่วนและแก้ปัญหาเหล่านี้พร้อมๆ กัน จึงจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงานและลดภาระงานครูได้จริง

อีกวิธีการจัดสรรทรัพยากรใหม่คือการควบรวมโรงเรียน ซึ่งจะทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรร่วมกันมากขึ้น งานศึกษาของธนาคารโลกได้ให้ข้อสรุปว่า ประเทศไทยสามารถควบรวมโรงเรียนที่มีนักเรียนไม่เกิน 500 คน (ซึ่งเป็นขนาดเล็กถึงกลาง) ที่อยู่ห่างกันไม่เกิน 6 กิโลเมตรกว่า 24,000 แห่งให้เหลือประมาณ 6,900 แห่งได้[18]World Bank Group. (2023). Thailand Public Revenue and Spending Assessment. p.112 – 119. https://documents1.worldbank.org/curated/en/099052523201510112/pdf/P17715703a68af0590b7290234ea94ba989.pdf ;ทั้งนี้ผู้เขียนได้ปรับตัวเลขบางส่วนใหม่ตามฐานข้อมูล … Continue reading การลดจำนวนโรงเรียนลงย่อมช่วยลดปริมาณงานต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอนลงได้ เมื่อจำนวนครูหรือบุคลากรที่ทำธุรการต่างๆ ในระบบมีเท่าเดิม (หรือลดลงในอัตราที่ช้ากว่าจำนวนโรงเรียนที่ลดลง) ก็จะช่วยให้ภาระงานต่อหัวลดลงตามไปด้วย ทั้งนี้การจัดสรรทรัพยากรด้วยวิธีนี้ก็จำเป็นต้องแก้ปัญหาความไม่มีประสิทธิภาพส่วนอื่นไปพร้อมๆ กันเหมือนข้อเสนอก่อนหน้า

นอกจากนี้ สพฐ. ควรประเมินวิธีใช้ทรัพยากรใหม่ด้วย เพราะตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 ลักษณะการจ้างลูกจ้างของ สพฐ. ได้ถูกเปลี่ยนจากลูกจ้างชั่วคราวเป็นจ้างเหมาบริการ[19]Thai PBS. (2025, มีนาคม 18). เปิดปัญหาลูกจ้างเหมาบริการ สพฐ. เสียสิทธิสวัสดิการ | ข่าวค่ำ | 18 มี.ค. 68. [Video]. YouTube. สืบค้นเมื่อ 20 กรกฎาคม 2025 https://www.youtube.com/watch?v=2zhqv8kAkNQ ส่งผลให้สวัสดิการประกันสังคมที่เคยได้รับหายไป หรือเรื่องค่าตอบแทนลูกจ้างที่ทำงานเอกสารที่ยังน้อยเกินไป คือ 9,000 บาท สำหรับพนักงานจ้างเหมาบริการ และ 15,000 บาท สำหรับผู้ปฏิบัติงานราชการ แม้กำลังจะมีการขึ้นเงินเดือนเป็น 10,300 บาท และ 18,500 บาท[20]Kruwandee. (2025, กรกฎาคม 16). ครูยิ้มออก! สพฐ.ล้างบางงานเปลืองแรง ดันเงินเดือนธุรการขึ้น เตรียมประกาศลดภาระงานครูไม่ต้องทำอีกต่อไป. สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม … Continue reading แต่ก็ยังคงน้อยเมื่อเทียบกับค่าจ้างที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตได้อย่างสมศักดิ์ศรี (ตามแนวทางค่าจ้างเพื่อชีวิต) ที่ประมาณ 19,500 บาท/เดือน[21]เป็นค่าจ้างเพื่อชีวิตกรณีที่ต้องเลี้ยงดูตนเอง คู่สมรส และลูก 1 คน โดยนำค่าจ้างเพื่อชีวิตที่เป็นรายวันมาคูณ 27 เพื่อคือค่าให้เป็นรายเดือน; … Continue reading ด้วยรูปแบบการจ้างงานที่ไม่มั่นคงและค่าตอบแทนที่ยังน้อยก็อาจส่งผลให้ สพฐ. จ้างคนมาทำงานธุรการได้ยาก

แค่จัดสรรทรัพยากรใหม่ยังไม่พอ รัฐต้องเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ

ภาระงานครูไม่ได้มีแค่งานธุรการเท่านั้น แต่ยังมีงานนอกเหนือการสอนอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการประเมินผลงานและคุณภาพ การทำกิจกรรมและประเมินโครงการต่างๆ การแข่งขันทางวิชาการ และการอบรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้กินเวลารวมกันถึง 84 วันจาก 200 วัน หรือคิดเป็น 42% ของหนึ่งปีการศึกษา[22]คิดตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ที่ระบุว่าในหนึ่งปีการศึกษาต้องมีการจัดการเรียนการสอนตามปกติไม่น้อยกว่า 200 วัน … Continue reading แม้รัฐจะจัดสรรทรัพยากรใหม่ได้ดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่างานพวกนี้จะหายไป

ณ วันที่เผยแพร่บทความนี้ (29 กรกฎาคม 2025) สพฐ. ได้มีการประกาศศยกเลิกภาระงานครูในส่วนของการประเมินหรือทำโครงการต่างๆ รวม 52 รายการทันที ทำให้ภาระงานครูที่ต้องประเมินหรือทำโครงการต่างๆ ลดจาก 114 รายการเหลือ 62 รายการ[23]ประกาศสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง ยกเลิกและลดภาระการายการ การประเมินของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา. (และอาจลดลงอีกในอนาคต) ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีในการลดภาระงานครูที่ต้นเหตุ แต่หากในอนาคต สพฐ. หรือหน่วยงานอื่นๆ ยังคงสร้างงานใหม่ๆ อยู่ดังเช่นที่ผ่านมา สุดท้าย ‘รายการ’ ต่างๆ ที่ครูต้องรายงานก็จะวนกลับมาเป็นภาระเช่นเดิม ดังนั้น ก่อนที่รัฐจะสร้างมาตรการประเมินแบบใหม่ๆ หรือทำโครงการต่างๆ ก็จำเป็นต้องคิดให้ถี่ถ้วนว่าสิ่งเหล่านี้จำเป็นหรือไม่ เพื่อไม่ให้ความพยายาม ‘คืนครูสู่ห้องเรียน’ ครั้งนี้ไม่สำเร็จเหมือนในอดีตที่ผ่านๆ มา

References
1 Sanook. (2025, มิถุนายน 17). อาลัย “ครูมัท” ทิ้งจดหมายลาก่อนจบชีวิตในวัย 39 ปี เครียดภาระงานการเงินในโรงเรียน. Sanook.com. สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2025. https://www.sanook.com/news/9804210/
2, 22 คิดตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ที่ระบุว่าในหนึ่งปีการศึกษาต้องมีการจัดการเรียนการสอนตามปกติไม่น้อยกว่า 200 วัน จึงจะครบตามที่หลักสูตรกำหนด ดูเพิ่มเติมใน ศุภณัฏฐ์ ศศิวุฒิวัฒน์. (2023). นโยบายลดภาระงานครู (บางส่วน) ไม่พอคืนครูสู่ห้องเรียน. สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2025. https://policywatch.thaipbs.or.th/article/education-2
3 ศธ. 360 องศา. (2025, กรกฎาคม 14). “รมว.นฤมล” หารือ ก.ค.ศ.-สพฐ.เร่งลดภาระงานครู เผย เตรียมดึงครูเกินเกณฑ์ไปทำธุรการ แก้ปัญหา รร.ขนาดเล็ก ขาดบุคลากร โดยไม่ต้องเพิ่มงบ. สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2025. https://moe360.blog/2025/07/14/teachers14072025/
4 พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 39.
5 กฎกระทรวง เรื่อง: การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระจายอำนาจการบริหารและจัดการการศึกษา พ.ศ. 2550 (2008
6 สัมภาษณ์ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งโดยผู้เขียน
7 https://www.facebook.com/photo/?fbid=141032640607782&set=pcb.141033453941034
8 ดูเพิ่มเติมใน ศธ.0206.3/ว21 เรื่อง ภาระงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ผู้บริหารสถานศึกษา ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ และตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา
9, 15 ดูเพิ่มเติมใน ศธ.0206.6/ว23 เรื่องเกณฑ์อัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรการศึกษาในสถานศึกษา สังกัดคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ https://101pub.org/teacher-shortage-problem/
10 สัมภาษณ์ครูพัสดุที่ทำฝ่ายจัดซื้อโดยผู้เขียน
11 มติชน Online. (2023, ธันวาคม 6). ‘ครูชัยยศ’ ถูกปลดต้องไปขายโรตี เหตุหวังดีเซ็นซื้อข้าวให้มัธยมกินด้วย เรือจ้างรุ่นใหม่สะเทือนใจ. สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2025. https://www.matichon.co.th/social/news_4318060
12 มติชน Online. (2025, กรกฎาคม 14). ‘นฤมล’ ถก ก.ค.ศ.-สพฐ. เร่งลดภาระงานครู เผย เตรียมดึงครูเกินเกณฑ์ทำธุรการ แก้ปัญหาขาดบุคลากร. สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2025. https://www.matichon.co.th/local/education/news_5274656
13 ฐานเศรษฐกิจ. (2025, กรกฎาคม 16). ข่าวดี สพฐ. จ่อออกประกาศ ‘ลดภาระครู’ ไม่ต้องทำงานธุรการ-การเงิน-พัสดุ. สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2025. https://www.thansettakij.com/general-news/633034
14 กรณีที่ข้าราชการครูที่ถูกเกลี่ยเป็นครูผู้ช่วยหรือครู คศ.1 ที่ยังไม่มีวิทยฐานะ การถูกเกลี่ยให้ไปทำธุรการ (โดยไม่ต้องสอน) จะส่งผลให้คนกลุ่มนี้ไม่สามารถสั่งสมประสบการณ์การสอนหรือเก็บผลงานเพื่อขอเลื่อนขั้นไปเป็นครูชำนาญการ (คศ.2) ขึ้นไปได้ เมื่อโอกาสเลื่อนวิทยฐานะลดลง โอกาสที่ค่าตอบแทนที่จะเพิ่มขึ้นจากการเลื่อนวิทยฐานะครูก็ลดลงตามไปด้วย หรือในกรณีที่จะเอาดีในสายงานใหม่ (คือบุคลากรการศึกษาอื่น) ครูเหล่านี้ก็จำเป็นต้องปรับตัวตามเกณฑ์ประเมินใหม่ตามสายงานซึ่งจำเป็นต้องสั่งสมประสบการณ์ใหม่หรือ re-skills ต่างๆ ในสายงานใหม่ตั้งแต่เริ่ม
16 ในอดีต การไม่มีธุรการประจำโรงเรียนอาจสร้างความเสี่ยงในการไม่ได้รับหนังสือจากผู้อำนวยการเขตด้วย เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วธุรการประจำโรงเรียนจะเป็นผู้รับหนังสือคนแรกและแจ้งข่าวสารให้ผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อดำเนินการต่อไป แต่ด้วยวิธีการสื่อสารในปัจจุบันช่วยให้ความเสี่ยงนี้ลดลง เช่น การตั้งกลุ่มไลน์; สัมภาษณ์ครูในโรงเรียนที่เคยใช้ธุรการกลางโดยผู้เขียน
17 มติชน Online. (2025, กรกฎาคม 14). ‘นฤมล’ ถก ก.ค.ศ.-สพฐ.เร่งลดภาระงานครู เผย เตรียมดึงครูเกินเกณฑ์ทำธุรการ แก้ปัญหาขาดบุคลากร. สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2025 https://www.matichon.co.th/local/education/news_5274656
18 World Bank Group. (2023). Thailand Public Revenue and Spending Assessment. p.112 – 119. https://documents1.worldbank.org/curated/en/099052523201510112/pdf/P17715703a68af0590b7290234ea94ba989.pdf ;ทั้งนี้ผู้เขียนได้ปรับตัวเลขบางส่วนใหม่ตามฐานข้อมูล ดูเพิ่มเติมใน กษิดิ์เดช คำพุช, ศุภณัฏฐ์ ศศิวุฒิวัฒน์ และวนา ภูษิตาศัย. (2023). ‘ครูกระจุก โรงเรียนกระจาย’ ปัญหาการจัดสรรครูไทยที่ต้องแก้ไขก่อนจะสายเกิน. สืบค้นเมื่อ 20 กรกฎาคม 2025. https://101pub.org/teacher-shortage-problem/
19 Thai PBS. (2025, มีนาคม 18). เปิดปัญหาลูกจ้างเหมาบริการ สพฐ. เสียสิทธิสวัสดิการ | ข่าวค่ำ | 18 มี.ค. 68. [Video]. YouTube. สืบค้นเมื่อ 20 กรกฎาคม 2025 https://www.youtube.com/watch?v=2zhqv8kAkNQ
20 Kruwandee. (2025, กรกฎาคม 16). ครูยิ้มออก! สพฐ.ล้างบางงานเปลืองแรง ดันเงินเดือนธุรการขึ้น เตรียมประกาศลดภาระงานครูไม่ต้องทำอีกต่อไป. สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2025. https://www.kruwandee.com/news-id55910.html
21 เป็นค่าจ้างเพื่อชีวิตกรณีที่ต้องเลี้ยงดูตนเอง คู่สมรส และลูก 1 คน โดยนำค่าจ้างเพื่อชีวิตที่เป็นรายวันมาคูณ 27 เพื่อคือค่าให้เป็นรายเดือน; ดูเพิ่มเติม https://101pub.org/minimum-wage-to-living-wage/ และดูตัวเลขค่าจ้างเพื่อชีวิตใหม่ได้ที่ https://101pub.org/the-resources-ep34-minimum-wage-to-living-wage/
23 ประกาศสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง ยกเลิกและลดภาระการายการ การประเมินของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา.

บทความที่เกี่ยวข้อง

The Resources: แก้ปัญหาครูภาระงานท่วม แก้อย่างไรให้ถึงราก ?

ชวนสำรวจภาระงานที่นอกเหนือจากการสอนของครูและเสนอวิธีการแก้ปัญหาให้ถึงราก เพื่อ ‘คืนครูสู่ห้องเรียน’ อย่างแท้จริง

‘ครูกระจุก โรงเรียนกระจาย’ ปัญหาการจัดสรรครูไทยที่ต้องแก้ไขก่อนจะสายเกิน

101 PUB ชวนสำรวจปัญหาการขาดแคลนครูในโรงเรียนประเภทต่างๆ ซึ่งส่งผลเสียคุณภาพการศึกษา โดยรัฐสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการรวมโรงเรียนและจัดสรรครูใหม่

ทันโลกนโยบาย 101: ครูกระจุก โรงเรียนกระจาย

ปัญหาการศึกษาไทยไม่ใช่แค่ครูมีไม่พอ แต่ยังกระจุกตัว ขณะที่โรงเรียนขนาดเล็กก็มีจำนวนมากและตั้งอยู่กระจัดกระจาย

101 Public Policy Think Tank
ศูนย์ความรู้นโยบายสาธารณะเพื่อการเปลี่ยนแปลง

ศูนย์วิจัยนโยบายสาธารณะไทยในบริบทโลกใหม่ สร้างสรรค์ความรู้ด้านนโยบายสาธารณะที่มีคุณภาพ เพื่อเพิ่มพลังให้ประชาชนสามารถตัดสินใจอย่างดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ในเรื่องสำคัญที่มีความหมายต่อชีวิตส่วนตัว ครอบครัว และสังคม

Copyright © 2025 101pub.org | All rights reserved.